![](http://2.bp.blogspot.com/-gaVq4JyZT7o/VFxzTbTacXI/AAAAAAAALos/_G8exKlQzOw/s1600/1.%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B8%94.jpg)
1. การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน(Preventive Maintenance) ซึ่งการบำรุงรักษาในลักษณะนี้จะมีการตั้งเวลาชั่วโมงการทำงาน และแต่ละค่าของชั่วโมงการทำงานจะมีลักษณะการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน แต่การบำรุงรักษาลักษณะนี้จะป้องกันมอเตอร์จากการเกิดปัญหาได้ระดับหนึ่ง เท่านั้น และยังอาจเกิดผลเสียขึ้นโดยรวม เช่น
- แปรงถ่านอาจจะแตกหักก่อน 2,000 ชม. ทำให้เกิดการหยุดมอเตอร์ก่อน 2,000 ชม.
- ตลับลูกปืนอาจเสียจะหายก่อน 10,000 ชม. ทำให้มอเตอร์ไหม้หรือเสียหายได้
2. การบำรุงเชิงพยากรณ์(Predictive Maintenance)ซึ่ง จะทำโดยการตั้งชั่วโมงการทำงานเพื่อเข้าตรวจเช็ค และจาก,การตรวจเช็คนี้จะนำไปวิเคราะห์ดูแนวโน้มของปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น เพื่อหาทางป้องกันความเสียหาย จะมี 2 ขั้นตอนดังนี้
ขั้นที่ 1 กำหนดชั่วโมงทำงานเข้าตรวจเช็ค
ขั้นที่ 2 นำข้อมูลจาก ขั้นที่ 1 มาเก็บข้อมูล และ วิเคราะห์ โดย การเปรียบเทียบแนวโน้ม และเทียบกับค่ามาตรฐาน ตรวจสอบหาสาเหตุ และทำการแก้ไขข้อควรรู้ก่อนการบำรุงรักษาเชิงพยากรณ์ เพื่อให้อ้างอิงถึงค่าที่มีการกำหนดเหมือนๆกัน จึงมีการกำหนดมาตรฐานต่างๆขึ้น ตัวอย่างเช่น ในอเมริกาจะอ้างถึงNEMAหรือ IEEE ในขณะที่ยุโรปอาจจะอ้างถึง IEC DINV VDE โดยแต่ละมาตรฐานจะมีข้อทดสอบที่นำมาเป็นค่ามาตรฐานว่าค่าเท่าไหร่ที่ยอมรับ ได้ มาตรฐานต่างๆเหล่านี้ สามารถหาอ่านได้ที่ห้องสมุดของสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม หรือห้องสมุดของคณะวิศวกรรมศาสตร์ทั่วๆไป หรือศูนย์อนุรักษ์พลังงานแห่งประเทศไทย การบำรุงรักษามอเตอร์
การบำรุงรักษามอเตอร์มีขั้นตอนและข้อควรปฏิบัติ ดังต่อไปนี้
1. ทำรายการตรวจสอบ ของชุดที่ควรทำการตรวจเช็คและกำหนดชั่วโมงการเข้าตรวจเช็ค
2. เข้าตรวจเช็คตามชั่วโมงที่กำหนด
3. วิเคราะห์ดูแนวโน้มของข้อมูล
4. ทำการแก้ไขมอเตอร์ที่มีแนวโน้มบางอย่างไม่ดี แล้วทำการตรวจเช็คอีกครั้งหนึ่ง
ข้อควรปฏิบัติ
1. ขณะมอเตอร์ยังใช้งานอยู่-ควรเติมจาระบีกรณีครบรอบหรือแบริ่งมีเสียงดัง-ตรวจ ดูการระบายความร้อน มีอะไรขวางทางลมหรือการระบายอากาศหรือไม่
2. ขณะมอเตอร์หยุดนิ่ง-กรณีไม่มีความเสียหายให้ขันจุดต่อของไฟฟ้าและสภาพทั่วไป ของการต่อเครื่องจักรหรือโหลด-กรณีเสียหายต้องถอดมอเตอร์มาเปิดตรวจเช็คจุด ต่างๆ
3. การพิจารณาดูค่าจากการตรวจเช็คต่างๆ บางครั้งสามารถเปรียบเทียบกับมาตรฐานได้
4. ในกรณีที่มอเตอร์เกิดความสกปรกมาก และต้องการล้างสิ่งสกปรกออก ควรถอดแยกชิ้นส่วนมอเตอร์ก่อน แล้วแยกล้างเป็นชิ้นส่วนโดยการล้างอาจจะใช้น้ำสะอาด, สารละลายต่างๆ ที่มีคุณสมบัติที่ไม่กัดกร่อน แล้วนำชิ้นส่วนที่ล้างแล้วเหล่านั้นอบให้แห้งสนิทก่อนจะประกอบใหม่ หมายเหตุ หลังจากอบแห้งแล้วอาจะนำสเตเตอร์หรือโรเตอร์ ที่มีขดลวดมาจุ่มวาร์นิช(dip) เพื่อเป็นการปิดรอยแตกต่างๆ(crack)ของพวกฉนวน เป็นการยืดอายุของฉนวน
เขียนโดย ช่างกลฯโคราช
ป้ายกำกับ: การบำรุงรักษา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น